ภาพ : PS, TK
เรื่อง : PS
วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับสองหัวเรือจากงาน “Rock Alarm” และเจ้าของค่ายเพลงร็อคยุคใหม่ที่กำลังมาแรงอย่าง “Vom Records” ได้แก่ “โอ๊ค – พงศ์พันธุ์ พลสิทธิ์” และ “สมเมย์ – ณัฐนนท์ ศรีศรานนท์” ถึงเรื่องราวของงานเฟสติวัลที่รวบรวมวงเมทัลไว้มากที่สุดในเมืองไทย ที่กำลังจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ภายใต้ชื่อว่า “Undying Spirit” นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยถึงจุดเริ่มต้น สถานะปัจจุบัน และอนาคตของงานเฟสติวัลดังกล่าวที่กำลังเป็นที่นิยมและมีแต่คนพูดถึง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ได้เลยครับ
CrazyGroovy : อยากให้พี่ ๆ แนะนำตัวหน่อยครับ
พี่โอ๊ค : ผมชื่อ พงศ์พันธุ์ พลสิทธิ์ นะครับ แต่ถ้าในวงการก็จะรู้จักกันในชื่อ โอ๊ค เป็นมือเบสวง Big Ass นะครับ

พี่สมเมย์ : สวัสดีครับ ผมสมเมย์นะครับ ณัฐนนท์ ศรีศรานนท์ มือกลองวงลาบานูนครับ แล้วก็เป็นผู้จัดงาน Rock Alarm Music Festival 2025 และปีที่ผ่าน ๆ มานะครับ และเป็นผู้บริหารค่ายเพลง Vom Records อีกด้วยครับ

CrazyGroovy : อยากให้พี่ ๆ เล่าจุดเริ่มต้นในการจัดงานคอนเสิร์ต Rock Alarm ครับ
พี่โอ๊ค : ต้องท้าวความไปเมื่อสัก 7 ปีกว่า ๆ ได้ เราก็รู้จักกับสมเมย์ ลาบานูน ช่วงนั้นสมเมย์ชวนให้ไปจัดงาน เขาก็คุยว่าเขามีโปรเจกต์จะจัดงาน จะเอาเพื่อน ๆ ที่เคยเล่นกันมา ไม่ว่าจะเป็น Oblivious Tazzmanian และอีกหลาย ๆ วง สมเมย์กำลังหาคนมาทำอาร์ตเวิร์คโปสเตอร์ของงาน แล้วเรากำลังออกแบบงานอาร์ตเวิร์คของงาน ก้าวคนละก้าว ของพี่ตูน บอดี้สแลม – อาทิวราห์ คงมาลัย จึงทำให้สมเมย์สนใจ อยากให้เรามาช่วยในการออกแบบโปสเตอร์ ก็เลยเริ่มคุยกัน
พี่สมเมย์ : Rock Alarm มันเกิดขึ้นมาเมื่อตอนปี 2018 เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว เริ่มจากจุดเล็ก ๆ ที่ผมอยู่ในวงการอันเดอร์กราวน์ ในตอนที่อยู่วง Oblivious ก่อนที่จะมาอยู่วงลาบานูน ระหว่างที่กำลังทัวร์กับวงลาบานูนแล้วคิดถึงเพื่อน ๆ ในวงการอันเดอร์กราวน์ จึงใช้ช่วงเวลาที่วงลาบานูนพักทัวร์มาจัดคอนเสิร์ต ที่ให้บรรยากาศเหมือนในยุค 2000 ที่อีโมกำลังเฟื่องฟู จัดให้มีคนมาดูคอนเสิร์ตเพียง 100 ถึง 200 คน เมื่อคิดคอนเซ็ปต์ขึ้นมาได้ จึงพยายามหาที่ปรึกษาเป็นคนที่มีความรู้ทางด้านการจัดงาน และรวมถึงเรื่องของอาร์ตเวิร์คโปสเตอร์ด้วย เพราะเราอยากทำโปสเตอร์โดยการที่เป็นคนวาดรูปขึ้นเอง ไม่อยากใช้กราฟิกในการมาทำมาช่วย เลยนึกถึง พี่โอ๊ค กับพี่กบ Big Ass – ขจรเดช พรมรักษา ขึ้นมา รวมถึงขอความช่วยเหลือจากพี่โอ๊คให้วาดอาร์ตเวิร์คโปสเตอร์งานให้ผมหน่อย
พี่สมเมย์ : ในระหว่างการคิดคอนเซ็ปต์ ยังไม่มีชื่อคอนเสิร์ตในหัวเลย แต่เรารู้สึกทุกครั้งที่พูดถึงการจัดคอนเสิร์ต หัวใจมันเต้นแรงตลอด เหมือนเป็นนาฬิกาปลุกที่ปลุกความรู้สึก เหมือนปลุกหัวใจ จึงตั้งชื่อคำว่า Rock Alarm ขึ้นมา หลังจากนั้นได้ติดต่อไปหาพี่โอ๊ค เพื่อบอกคอนเซ็ปต์ และจึงได้มาเป็นอาร์ตเวิร์ครูปหัวใจนาฬิกา และรากไม้ที่เหมือนกับเพิ่งเริ่มต้น ที่ใช้เป็นอาร์ตเวิร์คในทุก ๆ ปี

CrazyGroovy : ตอนที่เริ่มจัดงานนี้ครั้งแรก กระแสดนตรีเมทัลเป็นอย่างไรบ้างครับ
พี่โอ๊ค : ตอนนั้นมันค่อนข้างจะ เงียบ ๆ เหมือนกัน พอตอนนั้นกระแสเพลงอินดี้ เพลงฮิปฮอปมันกำลังมาแรง
พี่สมเมย์ : ตอนนั้นเงียบ คือกระแสเพลงร็อกตอนนั้นเริ่มซาไปแล้ว เริ่มมีฮิปฮอป เริ่มมีอย่างอื่นเข้ามามากมายแล้ว
CrazyGroovy : ก่อนหน้านี้ พี่ ๆ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของวงการอันเดอร์กราวน์บ้างมั้ยครับ
พี่โอ๊ค : ก็มีบ้างครับ จริง ๆ เราก็ชอบแอบไปดูงานอันเดอร์กราวด์อยู่นะ ตั้งแต่ยุคตอนที่ Ebola กำลังดัง ๆ ก็ไปดู ยุคที่ Retrospect หรือ Sweet Mullet กำลังเริ่มดัง Screamlab และ Do It Or Die ก็ไปเหมือนกัน


พี่สมเมย์ : ช่วงประมาณ 10 ปีที่เราไปอยู่ลาบานูน เราไม่ได้ติดตามเลย งานยุ่งมาก แต่ก็พอรู้จักกับเพื่อน ๆ ร่วมวงการอยู่เลยพอรู้ข่าวบ้าง
CrazyGroovy : จากงาน Rock Alarm ที่จัดครั้งแรกที่ Parking Toys มาสู่เทศกาลดนตรีที่รวมคนทั้งวงการได้ มันเกิดขึ้นได้จากตรงไหนครับ
พี่โอ๊ค : คือจริง ๆ ตอนครั้งที่ 2 ที่จัดที่ RCA มันเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น มีคนไปงานเยอะขึ้น จากที่คาดการณ์ว่าบัตรน่าจะมีไม่ถึง 1,000 ใบ ครั้งที่ 2 ก็ประมาณ 1,500 ใบ คนมันก็เยอะ หลังจากช่วงนั้นเนี่ย เรากำลังจะจัดครั้งที่ 3 ตอนนั้นสมเมย์ก็ชวนชัดเจนว่าให้เราเป็นผู้ร่วมลงทุนทำงานด้วยกัน จากการที่เราแค่ช่วยดูงานซัพพอร์ต

พี่สมเมย์ : ด้วยเรื่องสเกลของคนที่มันเพิ่มมากขึ้นทุกปี ปีแรก 700 คน ปีที่สอง 1,500 – 1,800 คน ปีที่สาม 2,000 – 3,000 คน

พี่สมเมย์ : เราแค่คิดว่าเวลาเราจะจัดงาน Rock Alarm แต่ละครั้ง ปัจจัยที่ทำให้ผู้ชมอยากจะมาดูที่งานคือเรื่องอะไรบ้าง โพรดัคชั่น การแสดงสด การจัดแสง ภาพที่เห็น หรือ เครื่องเสียง เราทำการบ้านกับทุกอย่าง เพื่อให้ทุกองค์ประกอบใน Rock Alarm เกิดขึ้นสมบูรณ์ที่สุด
CrazyGroovy : พี่ ๆ มีหลักเกณฑ์ในการเลือกศิลปินมาแสดงในงาน Rock Alarm อย่างไรบ้างครับ
พี่โอ๊ค : ก็จะดูแหละครับว่าวงนี้มีความน่าสนใจ วงนี้กำลังเป็นกระแส หรือวงนี้มีดนตรีที่น่าสนใจและแตกต่าง คือ Rock Alarm มันจะคละ ๆ กันหมดนะ มันจะมีทั้งฮาร์ดคอร์ มีทั้งพังก์ มีเมทัล มี Death Metal Deathcore Metalcore มันค่อนข้างจะรวม ๆ กันหลายๆ แนวเหมือนกัน แต่เราจะเน้นดนตรีที่ค่อนข้างที่จะหนักด้วย แล้วก็อยู่ทั้งในและนอกกระแสด้วย
พี่สมเมย์ : การคัดเลือกเราก็จะดู อย่างเช่น เจอวงหน้าใหม่วงนี้แล้วรู้สึกชอบ ไปเจองานนี้มา บางครั้งเราก็ไปดูงานนู้นงานนี้ใช่ไหม เราก็ดู เจอหน้าใหม่วงนี้ เราก็คุยกันไว้ก่อน แล้วก็มีที่ส่งมาด้วย แต่ที่ส่งอ่ะ เวลาส่งมามันส่งมาเยอะมาก ทีมงานเรามันไม่ได้เยอะ มันไม่สามารถที่จะฟังเพลงได้ทั้งหมด เราก็อาจจะต้องใช้ซาวด์เสียงดูว่า เฮ้ย อะไรที่คนมันน่าสนใจ เราก็เลือกดูแบบนี้แหละ ว่าคนอยากฟังอะไร คนอยากดูอะไร อะไรประมาณนี้ครับ

พี่สมเมย์ : แต่เราก็พยายามหาวง Mainstream เข้ามาใส่ แต่เป็น Mainstream ที่รู้สึกว่าพวกเค้ายังเกิดมาจากพวกเจนพวกนี้ เพราะเราเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นอย่างที่เราคัดเลือกมา อย่าง Big Ass กับ Ebola เค้าก็เกิดมาจาก Underground มาก่อน ฟังเพลงพวกนี้มาก่อน คือ DNA เค้าเป็นพวกเนี้ย แต่ตอนนี้เค้าเติบโตไปเป็น Mainstream แต่ในความพิเศษของแต่ละครั้งที่เราจะไปติดต่อเค้ามา เราจะขอเค้าทุกครั้งว่า เราขอ Setlist ที่เค้าไม่เคยเล่นงานจ้างทั่วไปได้ไหม เป็น Setlist ที่แม่งหาฟังได้ยาก หรือว่า Setlist ที่หนักของ เช่นเพลงหน้า B อะไรอย่างนี้ เป็นไปอย่างนี้ได้ไหม ถ้าได้ก็จะดีมาก
CrazyGroovy : ในการจัดงานแต่ละปีของ Rock Alarm เกิดอุปสรรคอะไรขึ้นบ้างครับ
พี่โอ๊ค : มันมีหลายอย่างนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา เรื่องของการเตรียมงาน เรื่องของคน เรื่องของทีมงาน พอยิ่งงานใหญ่ขึ้น จำนวนคนที่ทำงานก็มากขึ้น ในการดูแล ในการที่จะ Manage ทุกอย่าง จำได้ว่า ปีที่ 3 นี่ เบียร์หมด เครื่องดื่มหมดตอนสองทุ่ม คือเราคาดการณ์ไม่ถูกเลยว่าคนจะเยอะขนาดนี้ และเรื่องของเวลา จะต้องมีช่วงที่เราต้องดูว่า เฮ้ย งานมันมีปัญหาอะไรบ้าง เช่นแต่ละวงเนี่ย มันก็จะมีปัญหาเรื่องเทคนิคอะไรกัน เราก็ต้องพยายามที่จะแก้ปัญหาให้มันเร็วที่สุด
พี่สมเมย์ : มีอุปสรรคทุกปีเลย อย่างปีที่แล้วที่เพิ่งเจอคือฝน มันเป็นเรื่องสภาพอากาศที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เราต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่สุดท้ายมันก็ผ่านมาได้ด้วยดี แต่เราอ่ะเป็นคนเก็บรายละเอียดหลังบ้านอยู่แล้ว เราเป็นคนชอบดูเพจ ชอบดูคอมเมนต์ แล้วเราก็จะเอาข้อที่เค้าติ มาทำการบ้านเลย เค้าบอกปีที่แล้วเนี่ย มีคนดูดบุหรี่นี้ เราก็คิดเลยว่าต้องแก้ปัญหายังไงบ้าง อย่างปีนั้นเนี่ยร้อนมาก อ้าว เราแก้ปัญหายังไง เราเอามาทำการบ้านหมดทุกปี คือต่อให้เป็นเสียงเล็ก ๆ แต่เราใส่ใจ เราฟังหมด แล้วเราจะมารวบรวมไว้ในที่ประชุมตลอด เราจะบอก เฮ้ย ไปหาคำตอบซิว่าต้องทำยังไงให้มันผ่านเรื่องปัญหาแบบนี้ให้ได้อะไรอย่างเงี้ยครับ
พี่สมเมย์ : ปัญหาที่เจอทุกปี ส่วนใหญ่มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยของคำว่าเทศกาลดนตรี แล้วเรื่องของคนหมู่มาก เราไม่สามารถทำให้ตอบโจทย์ได้ทุกคน แต่พยายามจะรับฟังข้อติทุกอย่าง และแก้ในปีถัด ๆ ไป

ทีม CrazyGroovy: พูดถึงอุปสรรคแล้ว ขอย้อนกลับไปวันแรกของงานปีที่แล้ว ตอนที่ Big Ass กำลังเล่นแล้วฝนตก ต้องย้ายมาเวทีเล็ก ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกว่ามันจะกลายเป็นไวรัลไปเลย อยากให้พี่พูดถึงบรรยากาศในตอนนั้นหน่อยครับ
พี่โอ๊ค: โอ้โห ตอนนั้นมันชุลมุนมากครับ แล้วเราก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง ทีนี้พอมันนึกออกว่ามันมีเวทีเล็กอยู่ ตอนนั้นก็คิดว่าโอ้โห เวลาเราเล่นนะ มันก็จะมีพวกเรื่อง เรื่องซาวด์ เรื่องอะไรที่มันต้องเตรียม แต่ว่าเราตัดสินใจว่าเฮ้ย เฮ้ย ลองมามันส์ ๆ กันดีกว่า ลองแบบเล่นเวทีเล็กดู แล้วก็ลองเปิดหน้าตู้ อะไรอย่างงี้เลย แบบเล่นแบบสมัยก่อนเงี้ย อ๋อ back to basic เลย ก็เลยเอาเว้ย เพราะว่างานเราไม่ได้เล่นเพลงที่เราเล่นกันทั่วไปอยู่แล้ว เราเล่นเพลงที่เราไม่ค่อยได้เล่นกัน เพลงหนัก ๆ หรือเพลงที่อยู่-
ทีม CrazyGroovy: ยุคชุด Begins อะไรอย่างงี้
พี่โอ๊ค: ใช่ แล้วก็เป็นเพลงที่อยู่ในหน้า B วันนั้นก็เลยไม่ซีเรียส เพราะว่ามันไม่ได้มีฮาร์ดดิสก์ (ดาต้า) อะไรอยู่แล้ว แล้วทุกคนก็รู้สึกว่าเฮ้ย มาถึงช่วงเวลานั้นน่ะ มันต้องเล่นแล้วอ่ะ เพราะว่าเวลามันก็เลทมาด้วย แล้วก็เราก็ไม่อยากให้งานมันล้าช้านะ ก็เลยบอก เฮ้ย เล่นดีกว่า เพราะวันนั้นคือฝนมันมารอบแรก เราคิดว่าฝนมันไป ทีนี้มันกลับมาตกต่ออีก ทีนี้มันตกยาวเลย แล้วดูท่าทีไม่มีทางหยุดด้วย เราก็เลยว่าถ้าปล่อยไปอย่างเงี้ย งานก็จะล่าช้า แล้วก็กว่าจะเลิกนี่ น่าจะเกือบตีสาม เราก็ตัดสินใจว่า เฮ้ย ย้ายไปอยู่ตรงเวทีเล็กดีกว่า

ทีม CrazyGroovy: ก็คือหลัง หลังจาก Big Ass ก็คือทุกวงในเวทีใหญ่ก็คือย้ายมาเล่นเวทีเล็กหมดเลย
พี่โอ๊ค: ใช่ ก็คือ ก็คือ ก็มีบางวงก็เข้าไปเล่นในฮอลล์อย่างเงี้ย ก็ย้ายกัน แต่ก็วุ่นวายเหมือนกัน เพราะว่า ไหนจะย้ายเครื่องดนตรี ย้ายอุปกรณ์ต่าง ๆ ย้ายเข้าไปข้างใน แต่ว่าก็ต้องขอบคุณแฟนเพลงที่เขามาในงานนี้ทุกคนเลย ที่เขาไม่ยอมกลับบ้านกัน ก็คือทุกคนก็อยู่ที่นั่นจนถึงจบงาน เออ ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นซีนที่ประทับใจมาก ๆ มันรู้สึกดีอ่ะ คนก็ยังรออยู่ แล้วบรรยากาศในงานก็คือทุกคนออกันตรงหน้าเวที แล้วไม่มีรั้วกั้น ไม่มีอะไรทั้งนั้น เราเล่นกันแบบว่าชน ๆ กับแฟนเพลงเลย แล้วเจ๋งก็สนุก บรรยากาศมันดิบอ่ะ มันดิบมาก
ทีม CrazyGroovy: พอ พอมันดิบอย่างนั้นแล้ว มันมีความแตกต่างกับเล่นบนเวทีใหญ่อย่างไรบ้างมั้ยครับพี่
พี่โอ๊ค: เราว่า ความใกล้ชิดของเรากับแฟนเพลงอ่ะนะ มันเหมือนสมัยเราเล่นแคมปัส ที่สมัยนั้นที่เราพวกเรายังไม่เป็นที่รู้จัก มันก็คนมาออกันข้างหน้าเวทีเลย เล่นกันอย่างงั้น คนก็สนุกสนานกัน เบียด ๆ เสียด ๆ กัน

CrazyGroovy : Rock Alarm มีเป้าหมายอย่างไรในการจัดงานครั้งต่อ ๆ ไปบ้างครับ
พี่สมเมย์ : เราตั้งเป้า เรามีเป้าหมายของเราอยู่แล้ว ที่เราพูดกับพี่โอ๊คตลอดว่า วันนี้เราจะพยายามพิสูจน์ให้ผู้ใหญ่เห็น ให้ลูกค้าเห็น ให้ Target ของคนที่มา Rock Alarm เห็น ว่า Rock Alarm จะมีการพัฒนาของงานไปทุกปี ไม่มากก็น้อย ไม่ส่วนใดก็ต้องส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่เราวางไว้คือ เราหวังไว้ตลอดว่าปีหน้าว่าผมจะเอา Mainstream วงใหญ่ ๆ ของต่างประเทศมาให้ได้ มาอยู่ในงาน Rock Alarm ให้อยู่กับคนร็อกที่มาฟังเมทัลให้ได้ เช่น Parkway Drive Sleep Token เราอยากเอามาให้ได้ แล้วเราต้องทำให้ได้ เราอยากจะให้มันเป็นหนึ่งงานที่ชาวต่างชาติ เพื่อนบ้าน มีความคิดว่าถ้าบินมาดูร็อก จะต้องมาเทศกาลนี้เท่านั้น 1 ปีมีครั้งเดียว เราจะทำมันให้ได้ครับ

CrazyGroovy : เห็นว่าปีที่แล้วมีวง UNDEAD ซึ่งเป็นวงต่างประเทศได้มาเล่นแบบกระทันหัน อยากจะถามว่าคุยอย่างไรถึงได้วงนี้มาครับ
พี่โอ๊ค : ก็ต้องขอขอบคุณ Slamman ครับ ก็คือทาง Jino ยื่นข้อเสนอมาพอดีว่า มีวง UNDEAD ที่กำลังจะมานะ เพราะวงกำลังจะมาเล่นที่เวียดนาม เขาก็บอกว่าถ้าเขาจะมาเล่นที่นี่ต่อก็ทำได้ เพราะด้วยค่าตัวที่มันไม่สูงมาก จังหวะมันได้พอดี เขาก็อยากมาเที่ยวอยู่แล้ว ก็เลยพามาเล่นในวันที่ 2 เลย

CrazyGroovy : เป็นไปได้ไหมครับพี่ ที่ Rock Alarm จะมีแนวดนตรีอื่นเข้าร่วมงานด้วย อย่างเช่น Black Metal หรือ Thrash Metal อะไรพวกนี้ครับ
พี่โอ๊ค : จริง ๆ มีโอกาสอยู่แล้วครับ จริง ๆ แล้วเราเองก็เปิดกว้างนะ คืออยากจะให้มีหลากหลายแนว เป็นเพลงทรงแบบนี้ จะเป็น Black จะเป็น Death จะเป็นอะไรก็ตาม แต่ว่าเราเองอาจจะยังไม่ได้เจอพี่ ๆ เขา หรือว่าศิลปินที่ทำเพลงแนวแบบชัดเจนจริง ถ้าเราได้เจอได้คุยกัน ก็มีโอกาสที่ปีหน้าเราจะชวนมาเล่นกัน แต่ขอให้มีฐานแฟนเพลงที่ชัดเจน มีผลงานสม่ำเสมอ ถ้าเขามีผลงานต่อเนื่องเราก็อยากชวนเขามาอยู่แล้ว
พี่สมเมย์ : เราพูดตลอดเวลา เราอยากให้มีทุกแนวอยู่ในงานนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะ Punk Rock หรือแนวอื่น ๆ การจะทำให้ทุกแนวอยู่ได้ภายในวันเดียว เป็นไปได้ยากมาก จะทำแบบนั้นจะต้องทำ 2 วัน ซึ่งแลกด้วยสเกลงานที่ใหญ่ขึ้น งบประมาณที่ใช้ก็จะเพิ่มขึ้นทวีคูณ จึงต้องคิดเยอะ
CrazyGroovy : ถ้าจะให้พี่ ๆ อธิบาย Rock Alarm ให้คนทั่วไปเข้าใจ จะอธิบายอย่างไรดีครับ
พี่โอ๊ค : ก็ถือว่าเป็นงาน Festival ที่มีดนตรีที่ค่อนข้างหนักและหลากหลาย และเป็นดนตรีทางเลือก ที่อยากให้ทุกคนที่ไม่เคยมาได้ลองมา ตัวงานหรือคนที่มางานอาจจะมีความน่ากลัว แต่จริง ๆ อยากเชิญชวนให้มา เพราะจริง ๆ แล้วสายร็อค สายเมทัล นิสัยดีทุกคน ไม่มีเรื่องตีกันแน่ อาจจะมี ท่าที แฟชั่น หรือวัฒนธรรมในการชมคอนเสิร์ตที่ดูแล้วรุนแรง แต่จริง ๆ แล้ว ทุกคนกระทบกระทั่งกันด้วยความสนุกสนาน มันเป็นวัฒนธรรมมากกว่า อยากให้คนไม่เคยมาได้มาเจอวัฒนธรรมหรืองานแบบนี้บ้าง
พี่สมเมย์ : เราว่าวันนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว เราอยากให้คนเปิดใจ เราเชื่อว่าเด็กยุคใหม่สมัยนี้เปิดใจมาก ๆ ดนตรีไม่มีพรมแดนอีกต่อไปแล้ว เราแค่รู้สึกว่าวันนี้เราชอบอะไร เราก็อยากฟังแบบนั้น โลกสมัยนี้มันไว แต่ว่าเทศกาลดนตรี Rock Alarm เทศกาลนี้ มันเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่อยากให้ทุกคนที่ไม่เคยฟังเพลง หรือไม่เคยรู้จักว่า Community ชาวร็อกจริง ๆ เป็นอย่างไร เราอยากให้เค้ามาลองดู เทศกาลนี้มันจะเป็นเหมือนทั้ง Community เรื่องแฟชั่น ที่ทุกคนจะกล้าแต่งตัวมาเจอเพื่อน ๆ แต่เชื่อไหมว่าเทศกาลดนตรีร็อกแบบนี้ ไม่เคยมีเรื่องตีกัน ไม่เคยทะเลาะกัน ถ้าเทียบเท่ากับพวกงานทั่วไป Festival ทั่วไป เราเชื่อว่างาน Rock Alarm ไม่เคยมีเรื่องพวกนี้เลย แล้วชาวร็อกน่ารักมาก ๆ เฟรนลี่มาก ๆ

CrazyGroovy : อยากให้พี่ ๆ ฝากงาน Rock Alarm หน่อยครับ
พี่โอ๊ค : ก็ฝากนะครับ สำหรับใครที่เคยมาแล้ว งาน Rock Alarm ปีนี้ Line Up น่าดูมากนะฮะ ปีนี้มีทั้งวงที่เคยมาแล้วอย่าง Paper Planes ที่เคยมาตั้งแต่ปีแรก แล้วก็ปีนี้ก็กลับมา แล้วก็วงก็อยากจะกลับมาเล่นในดนตรีที่มันหนัก ๆ เหมือนที่เคยเล่น มีทั้งพี่สมคิด จากดอนผีบิน และยังมีวงเจ๋ง ๆ อีกเยอะรอให้ทุกคนได้ดูกัน ไม่ว่าจะเป็น Retrospect Paper Planes Dezember Oblivious Ugoslabier มามันส์ด้วยกันนะครับ
พี่สมเมย์ : อยากจะเชิญชวนเพื่อน ๆ ทุกคน แล้วก็เด็กทุกคนรุ่นใหม่ต่าง ๆ นานาที่ไม่เคยฟังเพลงแนวร็อก แล้วก็ยังไม่เคยรู้จักงาน Festival ของงาน Rock Alarm นะครับ อยากให้ลองมาดูคอนเสิร์ตในครั้งนี้กัน ลองเปิดใจ ผมว่าร็อกมันไม่ได้น่ากลัว แล้วผมเชื่อว่าคุณกลับไป คุณจะหลงรักเพลงร็อก เพลงเมทัลแน่นอน วันนี้ผมว่าคุณมาเจอเพื่อนที่งาน Rock Alarm กันดีกว่า ฝากด้วยนะครับ วันที่ 17 พฤษภาคมนี้ เสาร์หน้าแล้ว ใครที่ยังไม่มีบัตรก็สามารถซื้อได้ที่ All Ticket ได้เลยครับ
สามารถซื้อบัตรได้ที่ ลิ้งค์ดังกล่าว ตอนนี้ทราบมาว่าบัตรเหลือไม่มากแล้ว รีบจับจองก่อนจะไม่ทันกัน!